Locus ร้านอาหาร Chef’s Table กลางทุ่งนาจังหวัดเชียงราย ที่คนจองคิวรอทานกันข้ามปี
Locus ร้านอาหารกลางทุ่งที่เชียงราย ที่ใช้เวลาจองหลายเดือนกว่าจะมีโอกาสได้มาทาน ที่นี่เสิร์ฟเป็นคอร์สโดยเมนูจะเปลี่ยนไปในแต่ละเดือน ต้องจองก่อนเท่านั้นครับ ไม่รับลูกค้า walk-in โดยที่ร้านจะเสิร์ฟอาหารพร้อมกันตอน 18:30 และเสร็จประมาณ 20:00 ครับ
ที่ร้านนี้มีความโดดเด่นมากๆ เพราะทางร้านนำเสนออาหารเหนือ ออกมาในรูปแบบใหม่โดยการใช้ศาสตร์ของตะวันตกมาประกอบอาหาร ซึ่งนอกจากรสชาตจะว๊าวแบบตาโตแล้ว หน้าตาอาหารยังตื่นตาตื่นใจ จนเดาไม่ออกว่าที่เห็นอยู่คือเมนูอะไรอีกด้วย ระหว่างการรับประทานอาหาร เชฟก้องจะอธิบายเมนูอาหาร วัตถุดิบและที่มาโดยละเอียด จนทำให้เราแค่ฟังยังไม่ต้องทานก็รู้สึกอร่อยมากๆแล้ว
หลายคนรวมทั้งเราเองก็จองมาทานเรื่อยๆ เพราะเมนูจะเปลี่ยนไปทุกเดือน แม้จะมาหลายครั้งแล้วก็ยังประทับใจทุกครั้งและ
สัมผัสได้ถึงความพิถันพิถันในการทำทุกขั้นตอนของเชฟและทีมงาน ร้านอยู่ไม่ใกล้จากตัวเมืองเชียงรายเลย และย้ำว่าไม่รับ walk-in ใครมาเที่ยวเชียงราย เราอยากให้ลองมารับประสบการณ์การทานอาหารที่นี่กันครับ แล้วจะติดใจ
สำหรับรอบนี้อาหารเสิร์ฟทั้งหมด 7 คอร์ส คอร์สที่ 1-5 เป็นแบบเมนู อาหารเหนือแบบ contemporary ส่วนคอร์สที่ 6 เป็นการเสิร์ฟแบบขันโตกเป็นการเสิร์ฟเมนูเหมือนทั้ง 5 จานแรกแต่เป็นในแบบ conservative และปิดท้ายคอร์สที่ 7 ด้วยขนมหวานครับ จะน่าทานขนาดไหน เราเก็บภาพบรรยากาศและรายละเอียดเมนูอาหารมาฝากกัน มาดูกันเลย
คอร์สที่ 1 : แกงกระด้าง
เป็นเมนูที่นำขาหมูไปต้มจนเจลาตินออกแล้วเอาไปตาก 1 วัน เชฟบอว่าโดยปกติเขียงใหม่แกงจะมีสีขาว ส่วนเชียงรายจะมีสีแดงเพราะใส่พริกแกง ในเมนูประกอบไปด้วยเจลาตินจากขาหมู สตอเบอรี่ อกเปดรมควันฟางข้าว ผักชีที่ทำมาเป็นซอส หนังเป็ดทอดกรอบ และ กระเทียมเจียวที่นำเสนอในรูปแบบแผ่นกรอบ
คอร์สที่ 2: น้ำพริกเม็ดมะม่วง
เมนูนี้คือน้ำพริก creamy นวลๆของภาคเหนือแต่แต่ก่อนไม่มีภูมิปัญญาด้านนี้ ต้นหนาวชาวเหนือเขาจะล่าตัวต่อ ตัวอ่อนหนอนอวบๆ มาตำเป็นน้ำพริก แต่สมัยนี้ใช้เม็ดมะม่วงมาตำกับพริกแทน ผักคือเครื่องเคียงน้ำพริก โดยผักถูกเกรสด้วยน้ำผึ้ง เพื่อให้เข้ากับความเผ็ดอ่อนๆจนเป็นเมนูที่ครบรส อร่อยลงตัว
คอร์สที่ 3: จอผักกาด
ผักกวางตุ้ง หรือที่ชาวเหนือเรียกผักกาด เมนูผักกาดจอ คือแกงที่ให้ติดรสเปรี้ยวเป็น light cream soup มีกลิ่นพริกทอดกระเทียมเจียว ข้าวแต๋น บะชอ ตีกับครีมไข้ขาว ถั่วเน่า กลายเป็นเมนูจอผักกาดร่วมสมัย
คอร์สที่ 4: น้ำพริกน้ำผัก
สืบเนื่องจากเมนูก่อนที่ยอดผักกาดเอาไปทำจอ ส่วนที่เหลือส่วนโคนจึงนำไปซอย แล้วตำกับข้าวเหนียวผสมเกลือ ดองไว้ 4 วัน จนเกิดเป็นน้ำผัก หรือผักดองนั่นแหละ มีรสชาติเปรี้ยวหน่อย น้ำพริกน้ำผักจานนี้ มีซาวครีมด้านล่าง พร้อมชูครีมเต้าหู้ ผักไผ่ เพื่อเบรกให้ทุกอย่างเบาลง เสิร์ฟพร้อมผักขี่ฮูด ที่ต้องกินคู่กันกับน้ำพริกน้ำผักเข้ากันมากๆ และปลาดุกที่นำไปรมควันชานอ้อยก่อนที่จะนำมาทอด รวมเป็นเมนูน้ำพริกน้ำผักในแบบฉบับของ Locus
คอร์สที่ 5: น้ำพริกอ่อง
น้ำพริกอ่องปกติมีรสชาติเปรี้ยวหวานไม่เผ็ดนัก แต่จริงๆ มันมีความเผ็ดซ่อนอยู่ เมนูนี้นำหมูไปอบที่ความร้อน 62 องศา นาน 2 ชม คู่กับถั่วเน่าซา ที่ใช้เวลาตาก 7 วันก่อนจะนำไปอบต่อ dehydrate อีก3 วันที่ได้มาจากแม่แจ่ม เชียงใหม่ รับประกันว่า organic 100%
คอร์สที่ 6: เมนูเซทขันโตก เป็นการนำเมนูทั้ง 5 คอร์สก่อนหน้ามาเสิร์ฟในรสชาติและรูปแบบพื้นเมืองดั้งเดิม ให้เราได้เปรียบเทียบกัน ทำให้เห็นถึงความแตกต่างทั้งการ presentation และรสชาติที่น่าสนใจมากๆครับ
คอร์สที่ 7: ขนมเปี่ยง
ขนมเปี่ยง หรือ ขนมลิ้นหมา เมนูของหวานปิดท้ายค่ำคืนนี้ มักทำตอนเกบเกี่ยวฤดูข้าวเสร็จแล้ว ข้าวเหนียวดำมักเอามาทำเหล้า หรือทำขนม ข้าวหักใส่น้ำเอามาปั่นเปนก้อนกลม และใช้ใบตองใส่น้ำมันหมูรีดให้แบน คลุกน้ำตาล งา และ เสิร์ฟคู่กะทิร้อนที่ใส่เครื่องยิงวิปครีม